อนุสรณ์สถานประธานโฮจิมินห์
คำขวัญประจำจังหวัด พระธาตุพนมค่าล้ำ วัฒนธรรมหลากหลาย เรณูภูไท เรือไฟโสภา งามตาฝั่งโขง เรณูนคร เป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดนครพนม มีประเพณี และวัฒนธรรมที่งาม และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของจังหวัดนครพนม
Thursday, 20 October 2016
Friday, 7 October 2016
Thursday, 6 October 2016
Thursday, 15 September 2016
สะพานมิตรภาพไทย-ลาว 3 (นครพนม - คำม่วน)
สะพานมิตรภาพไทย - ลาว 3 (นครพนม - คำม่วน)
เป็นสะพานที่เชื่อมต่อระหว่างประเทศไทย (นครพนม) กับประเทศลาว (คำม่วน) พื้นที่ฝั่งไทยที่บ้านห้อม ตำบลอาจสามารถ อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม และฝั่งลาวอยู่ที่บ้านเวินใต้ เมืองท่าแขก แขวงคำม่วน
ระยะเวลาในการก่อสร้าง 900 วัน แล้วเสร็จในวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 เป็นเส้นทางการคมนาคมขนส่งด้านการค้า และการท่องเที่ยวเชื่อมโยงจากประเทศไทย ประเทศลาว ประเทศเวียดนาม และภาคใต้ของประเทศจีน ซึ่งมีความยาวรวม 780 เมตร มีช่องลอดกว้าง 60 เมตร สูง 10 เมตร 2 ช่วง ความกว้างสะพาน 13 เมตร และมีการช่องจราจร 2 ช่อง ไม่มีทางรถไฟเพื่อเป็นการรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2015
ทั้งนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธาน ในพิธีวางศิลาฤกษ์สะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 3 (นครพนม - คำม่วน) ในวันศุกร์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2552 ณ มณฑลพิธี บ้านห้อม ตำบลอาจสามารถ อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม และเสด็จทรงเป็นประธานพิธีเปิดอย่างเป็นทางการร่วมกับสหายบุนยัง วอละจิด รองประธานประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
ในวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 เวลา 11.11 น. ในพิธีเปิดสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 3
ในวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 เวลา 11.11 น. ในพิธีเปิดสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 3
Tuesday, 30 August 2016
ประเพณีไหลเรือไฟ
ประวัติการเรือไหลไฟ
ประเพณีไหลเรือไฟ เป็นประเพณีของชาวอีสาน ซึ่งภาษาท้องถิ่นเรียกว่า “เฮือไฟ” จะจัดขึ้นในช่วงเทศกาลออกพรรษา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อบูชารอยพระพุทธบาทของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ณ ริมฝั่งแม่น้ำนัมทามหานที โดยมีประวัติความเป็นมาดังนี้ กล่าวคือพระพุทธเจ้าเสด็จไปฝั่งแม่น้ำนัมทามหานที ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของพญานาค พระพุทธองค์ได้แสดงธรรมเทศนาโปรดพญานาคที่เมืองบาดาล และพญานาคได้ทูลขอพระพุทธองค์ประทับรอบพระบาทไว้ ณ ริมฝั่งแม่น้ำนัมทามหานที ต่อมาบรรดาเทวดา มนุษย์ ตลอดจนสัตว์ทั้งหลายได้มาสักการะบูชา รอยพระพุทธบาท นอกจากนี้ประเพณีไหลเรือไฟยังจัดขึ้นเพื่อขอขมาลาโทษแม่น้ำที่ได้ทิ้งสิ่งปฏิกูล และเป็นการเอาไฟเผาความทุกข์ให้ลอยไปกับสายน้ำ
เรือไฟ หรือ ภาษาอีสานเรียก เฮือไฟ นั้นหมายถึง เรือที่ทำด้วยท่อนกล้วย ไม้ไผ่ หรือ วัสดุ ที่ลอยน้ำ มีโครงสร้างเป็นรูปต่าง ๆ ตามต้องการ เมื่อจุดไฟใส่โครงสร้าง เปลวไฟจะลุกเป็นรูปร่างตามโครงสร้างนั้น
"ไหลเรือไฟ" เป็นพิธีกรรมอย่างหนึ่ง ที่ชาวอีสานยึดถือปฏิบัติสืบทอดกันมาแต่ครั้งโบราณ ประเพณีการไหลเรือไฟ บางทีเรียกว่า "ล่องเรือไฟ" "ลอยเรือไฟ" หรือ "ปล่อยเรือไฟ" ซึ่งเป็นลักษณะที่เรือไฟเคลื่อนที่ไปเรื่อย ๆ
งานประเพณีไหลเรือไฟ นิยมจัดกันในเทศกาลออกพรรษา ซึ่งตรงกับขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 หรือ แรม 1 ค่ำ เดือน 11 ประเพณีไหลเรือไฟ มีความเชื่อเกี่ยวโยงสัมพันธ์กับข้อมูลความเป็นมาหลายประการ เช่น เนื่องจากการบูชารอยพระพุทธบาท การสักการะพกาพรหม การบวงสรวงพระธาตุจุฬามณี การระลึกถึงพระคุณ ของพระแม่คงคา เป็นต้น
Wednesday, 24 August 2016
ประวัติ องค์พระธาตุพนม
ประวัติ องค์พระธาตุพนม
![]() |
พระธาตุพนม หรือเรียกตามแผ่นทองจารึกซึ่งจารึกไว้ในสมัยเจ้าราชครูหลวงโพนสะเม็ก
แห่งนครเวียงจันทน์ ว่า "ธาตุปะนม" เป็นพุทธเจดีย์ที่บรรจุพระอุรังคธาตุ (กระดูกส่วนพระอุระ ) ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีรูปทรงสี่เหลี่ยม ประดับตกแต่งด้วยศิลปลวดลายอันวิจิตรประณีตทั้งองค์ สูงจากระดับพื้นดิน 53 เมตร ฉัตรทองคำสูง 5 เมตร รวมเป็น 57 เมตร ประดิษฐานอยู่ ณ วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ตำบลธาตุพนม อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ห่างจากแม่น้ำโขงอันเป็นเส้นกั้นแดนระหว่างประเทศลาว กับประเทศไทยประมาณ 500 เมตร และห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 800 กิโลเมตร ในตำนานกล่าวไว้ว่า องค์พระธาตุพนมสร้างครั้งแรกในราว พ.ศ. 8 ในสมัยอาณาจักรศรีโคตรบูร กำลังเจริญรุ่งเรืองอยู่ โดยท้าวพญาทั้ง 5 อันมีพญาศรีโคตบูร เป็นต้น และพระอรหันต์ 500 องค์ อันมีพระมหากัสสปะเถระเป็นประมุข ลักษณะการก่อสร้าง ในสมัยแรกนั้น ใช้ดินดิบก่อขึ้นเป็นรูปเตาสี่เหลี่ยม แล้วเผาให้สุกทีหลัง กว้างด้านละสองวาของพระมหากัสสปะ สูงสองวา ข้างในเป็นโพรง มีประตูเปิดทั้งสี่ด้าน เมื่อสร้างเสร็จแล้วก็ได้อัญเชิญพระอุรังคธาตุของพระพุทธเจ้าที่พระมหากัสสปะเถระนำมาจากประเทศอิเนเดีย ประดิษฐานไว้ข้างใน แล้วปิดประตูทั้งสี่ด้าน แต่ยังปิดไม่สนิททีเดียว ยังเปิดให้คนเข้าไปสักการะบูชาได้อยู่บางโอกาส ในตำนานพระธาตุพนมบอกว่า "ยังมิได้ฐานปนาให้สมบูรณ์" นี้ก็หมายความว่า ยังมิได้ปิดประตูพระธาตุ ให้มิดชิดนั่นเอง พึ่งมาสถาปนาให้สมบูรณ์ในราว พ.ศ. 500 ท้าวพญาทั้ง 5 ผู้มาเป็นประมุขประธานในการก่อสร้างพระธาตุพนมในครั้งนั้นเป็นเจ้า ผู้ครองนครในแคว้นต่าง ๆ คือ 1. พญาจุลณีพรหมทัค ครองแคว้นจุลมณี ก่อด้านตะวันออก 2. พญาอินทปัตถนคร ครองเมืองอินทปัตถนคร ก่อด้านตะวันตก 3. พญาคำแดง ครองเมืองหนองหานน้อย ก่อด้านตะวันตก 4. พญานันทเสน ครองเมืองศรีโคตบูร ก่อด้านเหนือ 5. พญาสุวรรณภิงคาร ครองเมืองหนองหานหลวง ก่อขึ้นรวมยอดเข้าเป็นรูปฝาละมี |
ป้ายกำกับ:
ประวัติพระธาตุ
ตำแหน่ง:
Nakhon Phanom, Thailand
Subscribe to:
Posts (Atom)